วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

"โสม" รักษาได้สารพัดโรค




โสม  เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นิยมใช้และยอมรับนับถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ ชาวจีน  ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยถือกันมานาน กว่า 5,000 ปีว่าเป็นยาวิเศษอันทรงคุณค่ายิ่ง  ต่อมาการนิยมใช้โสม ได้แพร่หลายไปยังส่วนต่างๆของโลก และในปัจจุบันมีการเพาะปลูก โสมกันทั่วไปทั้งในประเทศ จีน ญี่ปุ่นเกาหลี รัสเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา อย่างไรก็ตามโสมมีอยู่ด้วยกันหลายพันธ์  แต่ละพันธ์จะมีสรรพคุณ   แตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศและท้องถิ่นที่ทำการเพาะปลูก โสมพันธุ์ดีที่สุดนั้นมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า  Panax  ginseng  C.A. Mayer  เป็นพืชในตระกูล Araliaceae ซึ่งเป็นโสมพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากในประเทศจีน และเกาหลี คำว่า Panax มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกแปลว่า "รักษาได้สารพัดโรค"



ผลของโสมต่อร่างกาย

     1.เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกาย: คุณสมบัติต่อต้านความเมื่อยล้า Antifatigue effect ของโสม ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะทำงานหรือออกกำลังกาย สารพลังงาน ATP และ Glycogen ที่มีอยู่ใน กล้ามเนื้อจะถูกใช้หมด


อย่างรวดเร็วและเกิดกรดน้ำนม Lactic Acid เพิ่ม ขึ้นอย่างมาก ทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า สารสกัดจากโสมช่วยให้เยื่อเซลล์สามารถดูดซึมอ๊กกซิเจนเพิ่มขึ้นถึง 21%   มีผลทำให้กระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้นร่างกายจึงปลดปล่อย พลังงานได้มากขึ้นขณะเดียวกับอัตราการเกิดกรดน้ำนมก็จะน้อยลง เนื่องจากได้รับการการสังเคราะห์ให้กลับเป็น Glycongen ใหม่ และมีการสะสม ATP รวด เร็วขึ้น ดังนั้นอัตราการเกิดความเมื่อล้าของกล้ามเนื้อจึงลดน้อยลงด้วย   นอกจากนั้นสารสกัดจากโสมยังช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับคืนสู่สภาพ ปกติรวดเร็วยิ่งขึ้น ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยช้าลง  มีความอดทนต่อการทำงานได้ดีขึ้น

     2. ต้านความเครียด:   ผลกระทบจากกระแสการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในยุคการสื่อสารไร้พรมแดน  ทำให้ผู้คนมีอาการผิดปกติในลักษณะต่างๆ ที่ตรวจสอบหาสาเหตุได่ยาก เป็นต้นว่าอาการทางหัวใจ ปวดศรีษะ นอนหลับไม่สนิท  ปัญหาการย่อยอาหารตลอดจน


     ปัญหา ข้อข้องใจในการปฏิบัติภาระกิจประจำวัน     ที่ล้วนก่อให้เกิดความเครียดซึ่งส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจหากทิ้งไว้ เป็นวลานาน อาจทำให้กลายเป็นอาการของโรคและอาการผิดปกติที่รุนแรงขึ้น
      สารสกัดจากโสมมีคุณสมบัติต้านความเครียด Antistress Effect โดยช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้สามารถอดทนต่อความเครียดได้ในระดับหนึ่ง  โดยฮอร์โมน  ACTH  จากต่อมใต้สมองจะเป็นตัวควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนต่อมหมวกใต  ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันและต่อต้านความเครียด โดยเร่งกระบวนการเมตาบอลิสม    Metabolism ต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานและสารออกมาต้านความเครียดได้
     3. ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง: Ginsenosides Rg1 จากโสมหรือในสารสกัดโสมมีคุณสมบัติกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ตื่นตัว   แต่จะเป็นการออกฤทธิ์ที่แตกต่างจากยากระตุ้นประสาทจำพวก Amphetamine หรือ Cocaine จึงไม่ทำให้กระทบกระเทือน ต่อการนานหลับตามปกติ ส่วน Ginsenosides Rb และ Rc จะออกฤทธิเกี่ยวกับการระงับประสาท ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด สารสกัดจากโสมจึงมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเป็นทั้งตัวช่วยให้ประสาทตื่นตัวและระงับผ่อนคลายประสาท     ทั้งนี้การออกฤทธิ์กระตุ้นหรือระงับนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพและความต้องการของ ร่างกาย

     4. ผลต่อสมรรถภาพทางเพศ:  เชื่อกันว่าโสมมีฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้นกำหนัดทางเพศ  แต่การวิจัยค้นความด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่   พิสูจน์ว่าโสมไม่ได้มีฤทธิ์ต่อฮอร์โมนเพศ หากการบำรุงด้วยโสม ทำให้สมรรถภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์แข็งแรง   จึงส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศมีความสมบูรณ์ขึ้นไปด้วย

     5. ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง: จากากรทดสอบเชิงคลีนิก มีผลชี้ว่า สารสกัดจากโสมอาจทำให้ตับอ่อนหลั่ง อินซูลินออกมา ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดอาการชาตามนิ้วมือและปลายเท้า การเกิดแผลเน่าเปื่อย    นอกจากนี้ Ginsenosides Rb1 และ Re ยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน  จึงอาจช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้

     6.เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย:   ผล การทดลองทางคลีนิกพบว่าสารสกัดโสมสามารถช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูง ขึ้น   นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพได้ทำการตรวจวิเคราะห์ปฏิกริยาตอบสนองของเม็ด เลือดขาวชนิดต่างๆ  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ

     7. ช่วยเร่งฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย:    จาก การศึกษาวิจัยและผลทางคลีนิกพบว่าโสมสามารถต่อต้านโรคและอันตรายจากรังสีรวม ถึงสารพิษต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ    เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อโรค แทรกซ้อนบางชนิด   ช่วยร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดง    และเพิ่มสมรรถภาพในการต้านความเครียดซึ่ง ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น   จึงทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวหายเป็นปกติจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น

      8. ช่วยชลอความแก่:   กระบวน การเผาผลาญไขมันของร่างกายเพื่อให้เกิดพลังงาน เรียกว่า Lipid oxidation นั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่สลายตัวจากอ๊อกซิเจน  อนุมูลอิสระนี้จะทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างให้เสื่อสลายลง  ตามกระบวนการของความชรา  โสมและสารสกัดมาตรฐานโสม   สามารถทำลายอนุมูลอิสระของอ๊อกซิเจนช่วยให้เนื่อเยื่อเสื่อสภาพช้าลงประกอบ กับคุณสมบัติเป็นตัวปรับสภาพ "Adaptogenic agent” ของโสมทำให้ร่างกาย  และจิตใจ มีความทนทานต่อความกดดัน ส่งผลในการชลอกระบวนการเสื่อมชราให้ช้าลงทำให้ร่างกายคงความสดใสเยาว์วัย อยู่ต่อไปได้เนิ่นนานขึ้

1 ความคิดเห็น: